ญาณสติ #๖ เปรตขอส่วนบุญ
ญาติผู้ล่วงลับบางคนยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด แต่ต้องดำรงในภพของเปรต อสุรกายอยู่ เปรตเหล่านี้อยู่บนพื้นโลกนี่เอง แต่มีที่กำหนดให้อยู่ โดยเฉพาะที่วัด เปรตเหล่านี้มีบุญเก่าอยู่ ไม่ถึงกับตกนรกหลายขุม แต่ทุกตนต้องรับกรรมรับเวร จนกว่าจะหมดเวรจึงไปสู่ภพใหม่ ที่อยู่ของเปรตเป็นโรงเรือนชั้นเดียวมีหลังคา มีเชือกกั้นเส้นเล็กๆเส้นเดียวกั้นโดยรอบ จัดเป็นห้องๆละประมาณ ๘ ๑๐ เมตรขนาดเท่าห้องเรียน มีทางเดินตรงกลางประมาณครึ่งเมตร แต่ละห้องจะแออัดไปด้วยเปรตที่มีลักษณะแตกต่างกันไปทั้งหญิงชาย เป็นผู้สูงอายุที่สิ้นอายุขัยแล้วทั้งสิ้น มีทั้งพวกนั่งนอน บางตนโผล่เหลือแค่คอ ส่วนลำตัวฝังอยู่ในดินทรายก็มี ลำตัวเน่าฟอนเฟะ ผอมแห้ง อ้าปากขอส่วนบุญ แต่พวกเขาออกไปไหนไม่ได้ เสมือนถูกอำนาจบางอย่างจำกัดที่อยู่ ชีวิตอ่อนระโหยโรยแรง หิวโหยขอข้าวกิน เมื่อญาติโยมเอาข้าวใส่บาตร เอาข้าวถวายพระสงฆ์ พร้อมทั้งกล่าวอุทิศส่วนบุญไปให้พวกเขาในทันที พวกเขาก็จะยื่นมือออกมารับข้าวสุกหอมกรุ่นเหล่านั้นทุกตน แต่ด้วยบาปเวรกรรมยังคงอยู่ ข้าวหอมกรุ่นอุ่นอยู่นั้นเมื่อถึงมือถึงปากของพวกเขา ข้าวเหล่านั้นก็จะกลายเป็นข้าวบูดเน่าเหม็นทันที พวกเขาต้องจำใจกินข้าวบูดข้าวเหม็นด้วยบาปยังไม่สิ้น แน่นอนว่า ในขณะที่ท่านยกทัพพีตักข้าวใส่บาตร ยกปิ่นโตถวายพระ พวกเขารอจ้องที่ท่านจะเอ่ยคำอุทิศให้ ถ้าท่านไม่พูดในใจอุทิศให้ พวกเขาจะรับได้อย่างไร
ปู่ย่าตาทวดที่ล่วงลับไปเป็นร้อยๆปี ที่ยังไม่ได้ผุดได้เกิดมีเป็นจำนวนมาก ที่รอผลบุญจากเหล่าบรรดาลูกหลานเหลนลื้อ ญาติพี่น้องทั้งหลาย ซึ่งอาหารหลักที่พวกเปรตต้องการก็คือ ข้าว ที่ท่านใส่บาตรพระสงฆ์ นั่นแหละ ไม่ใช่กับข้าวหมูเห็ดเป็ดไก่ อาหารคาวอร่อยๆตามที่คิด ( สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๑๕ เมษายน ๒๕๓๒ )
ดังนั้นในช่วงวันพระ ๘ ค่ำ ๑๔ ๑๕ ค่ำ พวกเขาจึงรอส่วนบุญส่วนกุศลจากญาติ ในช่วงฤดูสารทเดือนสิบ ซึ่งเหล่าญาติทั้งหลายพากันมาทำบุญแบบปีละครั้ง พวกเขาจึงรอส่วนบุญอยู่ เพื่อจะได้เพิ่มพลังบุญ เป็นการร่นระยะเวลาที่จะไปเกิดในภพใหม่ได้เร็วขึ้น
ส่วนกระทงเปรตหรือโทงเปรตนั้น เหล่าบรรดาญาติโยมจัดทำขึ้นเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเปรตทั้งหลายที่ ไม่มีญาติ หรือมีเสมือนไม่มีเพราะพวกเขามิได้ทำบุญอุทิศไปให้ พวกเขาจึงได้รับส่วนบุญด้วย
ส่วนบรรดาภูตผีทั้งหลายที่ยังไม่ได้ถึงกำหนดสิ้นอายุขัย ที่สถิตอยู่ตามข้างถนน สามแยก สี่แยก ทางโค้ง สระน้ำ บ่อน้ำ ตามบ้านเรือนห้องหับต่างๆ ตามต้นไม้ ป่าเขา ที่เราเรียกว่า ผีตายโหง ผีบ้านผีเรือน ผีนางไม้ ผีป่า ผีพราย ฯลฯ บางท่านจึงเจอด้วยพวกเขามาปรากฏให้เห็น เพื่อขอส่วนบุญ มิได้มาหลอกหลอนแต่ประการใด พวกเขารอส่วนบุญเช่นเดียวกัน เพื่อจะได้รีบไปเกิดใหม่ ตามอายุขัยที่ยังเหลืออยู่ เช่น จะสิ้นอายุขัยเมื่อ ๘๐ ปี แต่เพียง ๒๐ ปีถูกรถชนตาย เขาจึงเหลืออีก ๖๐ ปี จึงต้องรีบไปเกิดใหม่อีก ๖๐ ปีจึงสิ้นอายุขัย ในทางกลับกัน ตายเมื่ออายุ ๖๐ ปีด้วยอุบัติเหตุ เขาต้องไปเกิดใหม่แต่อยู่ได้แค่ ๒๐ ปีก็หมดอายุขัย ดังนั้นเวลาทำบุญจึงต้องอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้แก่ผีเหล่านั้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสวดมนต์ก่อนนอนแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล พวกเขามานั่งสลอนกำลังรอรับส่วนบุญจากท่านใกล้ๆเตียงนั่นแหละ แต่เรามองไม่เห็น ยกเว้นบางท่าน
ส่วนอสุรกายที่ร่างกายสูงใหญ่ตัวโตเท่าต้นตาล ปากเท่ารูเข็ม กินอาหารลำบาก ญาติโยมจึงเอาขนมลาถวายพระเพื่อให้พวกอสุรกายได้กิน
ส่วนผู้ที่ตกนรกในแต่ละขุม ยากที่จะได้รับส่วนบุญส่วนกุศลทั้งหมดจากญาติ พวกเขาจะได้รับเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้น ถึงแม้จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ก็ตาม เพราะ นรกไม่ปราณีใคร ผู้ที่ทำบาปหนักตกนรก จึงต้องรับกรรมไปจนกว่าจะครบกำหนด แล้วให้ไปเกิดใหม่ ล้างผลาญกันต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดกับเจ้ากรรมนายเวรของตน จนกว่าคู่กรณีจะตกลงเลิกแล้วต่อกัน ไม่จองเวรกันอีกต่อไป
: สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐
ตัดตอนจาก เทศกาลบุญเดือนสิบ
http://www.phuketcity.info/default.asp?content=contentdetail&id=17191
***
|