ญาณสติ #๔ ชดใช้ด้วยชีวิต
ตอนนั้นทางไปบ้านพักช่วงหนึ่งยังไม่ได้ราดยาง
มีเม็ดหินกรวดทรายเล็กๆสีขาว
เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดานกเขามาคุ้ยเขี่ยกิน
มีทั้งนกเขาใหญ่นกเขาไฟ
บางครั้งเป็นฝูงเกือบสิบตัว
นกพวกนี้เชื่องมาก
เพราะไม่มีใครไปทำร้ายรบกวน
โดยเฉพาะนกเขาไฟ
คนโบราณห้ามเอาเข้าบ้าน
ชื่อไม่เป็นมงคล
กลัวไฟไหม้บ้าน
เสียงขันก็ไม่เพราะ
นกพวกนี้มักจับคู่กันเกาะอยู่ตามสายไฟ
มีอยู่คู่หนึ่งทำรังอยู่บนต้นมะขามข้างบ้าน
ตัวผู้เกาะอยู่บนปลายเสาทีวี
ร้องขันอยู่ตลอดเวลา
ส่วนตัวเมียกกไข่
ช่วงวันหยุดตอนบ่าย
เรานอนเล่นพักผ่อนอยู่บนบ้าน
ทันใดนั้นเสียงปืนดังเปรี้ยง
ได้ยินเสียงของตกลงบนหลังคา
แล้วหล่นลงพื้น
เรารีบลงไปดู
โถ นกเขาไฟตัวผู้นั่นเอง
ยังอุ่นอยู่เลย
หน้าอกเนื้อเน่น
เราน้ำตาแทบร่วง
แล้วเจ้าของปืนก็เดินเข้ามาหาเหยื่อ
เรา ไปยิงมันทำไม ตัวเมียกำลังกกไข่อยู่บนต้นมะขาม
หล่อเล็ก ขอโทษครับ ผมไม่ทราบว่าเป็นบ้านของอาจารย์
เรา บ้านใครก็เหมือนกัน
หล่อเล็กสอนอยู่โรงเรียนมัธยมในเมือง
หล่อใหญ่พี่ชายสอนอยู่ที่วิทยาลัย
สามปีต่อมา
เพื่อนท้ายซอยเดินออกมารอรถโกร่ง
เรา ไปงานศพใครเหรอ
เพื่อน อ๋อ งานศพหล่อเล็กค่ะ
เรา อ้าว เป็นอะไรไป
แล้วเธอก็เล่าว่า หล่อเล็กทาสีโรงฝึกงาน
ซึ่งเป็นเรือนโครงไม้หลังคากระเบื้องลอน
ไม้คานเคยทาสีมาก่อน แต่สีหมอง
เหตุที่พัง
เพราะไม้คานเหล่านั้น
ปลวกกัดกินไส้ในเหลือแต่แก่นไม้
ที่มีสีหุ้มอยู่
จึงมองไม่เห็นร่องรอยของปลวก
แก่นไม้ที่พังลงมาหักเป็นท่อน
มีเสี้ยนปลายแหลม
เสียบอกเขา
***
ส.แก่น
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
|