ความบางตอนในนิราศถลาง
ความบางตอนในนิราศถลาง
นายมี หรือ หมื่นพรหมสมพัตสร หรือ หลวงศุภมาตรา ( มี ) ได้เขียนนิราศเมืองถลางไว้เมื่อประมาณพ.ศ. ๒๓๗๖ ๒๓๗๗ นิราศที่เขาได้แต่งคือ นิราศถลาง นิราศพระแท่นดงรัง นิราศเดือน และนิราศสุพรรณ
นิราศถลางได้กล่าวถึงการเดินทางตั้งแต่กรุงเทพฯถึงเมืองถลาง ว่าเขาได้ลงเรือสำเภาที่ท่าน้ำวัดโพธิ์ เรือออกจากปากน้ำสมุทรปราการ แล้วใช้ใบแล่นเลียบฝั่งผ่านบ้านแหลม โตนดหลวง เพชรบุรี สามร้อยยอด บางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ ปากน้ำชุมพร หลังสวน ถึงไชยา อ่าวบ้านดอน แล้วเข้าแม่น้ำตาปี เปลี่ยนเป็นเรือพาย ท่าข้าม พุมเรียง พุนพิน ถึงบ้านพระแสง จนถึงปากพนม แล้วเดินบก โดยเช่าช้างเป็นพาหนะ ผ่านเขาพนม จนถึงเขานางหงส์ ดังกลอนตอนหนึ่งว่า
...เข้าเขตแคว้นแดนถลาง
ก็ลัดล่วงลำเนาเขานางหงส์
ถึงปลายน้ำเมืองถลางหนทางลง
ก็เดินตรงรีบลัดตัดตำบลฯ
ถึงถลางกลางวันไม่ทันค่ำ
ชวนกันทำที่ประทับออกสับสน
อยู่วัดท้ายน้ำพังริมฝั่งชล
ก็ต่างคนต่างสบายเป็นหลายเดือน
พี่เที่ยวชมนัคเรศเขตสถาน
จะเปรียบปานเมืองใหญ่นั้นไม่เหมือน
เรือนพระยาเป็นสง่ากว่าพลเรือน
มีค่ายเขื่อนขอบคูประตูชัย
ข้างหลังหน้าธานีคีรีรอบ
เป็นขอบเขตโขดเขินเนินไศล
ดูยอดเยี่ยมเทียมเมฆวิเวกใจ
แม่น้ำไหลลึกกว้างอยู่กลางเมือง
มีสำเภาเลากามาค้าขาย
ทอดอยู่ท้ายเวียงชัยเสาใบเฉือง...
ถ้าหากพิจารณาการเดินทางของนายมีว่า เมื่อลงจากเขานางหงส์แล้วเดินไปไม่นานก็ถึงเมืองถลาง มีบ้านหลังใหญ่ของพระยาถลาง ที่ล้อมรอบด้วยกำแพง ด้านหลังเมืองถลางเป็นทิวเขาสูง มีแม่น้ำไหลผ่ากลางเมือง มีเรือสำเภาต่างจอดอยู่ท้ายเมือง...
เมืองถลางที่นายมีพูดถึงน่าจะเป็น เมืองถลางที่พังงา คือ อำเภอเมืองพังงาปัจจุบัน แสดงว่าช่วงนั้น พระยาถลางเจิมยังไม่ได้ย้ายเมืองกลับมาเกาะถลาง นายมีอยู่เมืองถลางสี่ปี ดังกลอนว่า ...แต่ปีกุนเดือนยี่จนปีขาล...
วันหนึ่งเพื่อนชวนไปไหว้พระพุทธบาท โดยเดินทางตัดป่าจากเมืองถลางพังงาถึงชายทะเลใช้เวลาเดินทางสองวัน แล้วข้ามทะเลเดินทางบกด้วยทางเกวียนต่อ มีต้นตาลโตนดเป็นจำนวนมาก จนถึงบ้านคน
...เป็นเมืองเก่าร้างเรื้อเหลือพม่า
ดูโรยราร้างไปเป็นไพรสณฑ์
มีแต่บ้านห่างๆทางตำบล
ประชาชนหญิงชายสบายบาน...
จากกลอนนี้แสดงว่านายมีกับเพื่อนออกเดินทางจากเมืองถลางพังงา ผ่านเมืองตะกั่วทุ่ง แล้วถึงปากพระ ข้ามช่องแคบท่านุ่น ไปยังเกาะถลาง เดินทางเกวียนจนถึงเมืองถลางที่ถูกพม่าเผาร้างมาตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๓๕๒ มีคนอยู่จำนวนน้อยที่ทำมาหากินด้วยการเพาะปลูกข้าวพืชผัก
จากเมืองถลางร้าง เดินทางต่อไปยังชายหาดเพื่อไหว้พระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่ที่ชายหาด แล้วเดินทางกลับเมืองถลางพังงา...
*******
นายมี ถือกำเนิดเมื่อพ.ศ. ๒๓๕๘ ที่จังหวัดชัยนาท แล้วเดินทางเข้ากรุงเทพฯ บวชเณรที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ เมื่ออายุประมาณ ๑๐ ๑๒ ปี จนได้เป็นศิษย์ของสุนทรภู่ ...ฉันเป็นศิษย์สุนทรยังอ่อนศักดิ์... จนอายุประมาณ ๑๘ ๑๙ ปี ได้ติดตามผู้ใหญ่ไปเมืองถลาง ในขณะที่ยังบวชเณร ...อยากใคร่บวชถือศีลพระชินสีห์ แต่อายุยังไม่ครบประจบปี... หลังจากบวชพระสึกแล้ว เข้ารับราชการเป็น หมื่นพรหมสมพัตสร นายอากรเดินสวน เมืองสุพรรณบุรี แล้วย้ายไปรับราชการที่เมืองชัยนาทในตำแหน่ง หลวงศุภมาตรา(มี) จนถึงแก่กรรมเมื่อประมาณพ.ศ. ๒๔๑๓
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๔
<<<<<<<>>>>>>>
|