Bookmark and Share Add to Favorites  
ภูมิอากาศจังหวัดภูเก็ต
  ความเร็วลมทั่วโลก
  สภาพอากาศจังหวัดภูเก็ต
  Phuket Weather Today
  10 Day Weather Forcast for Phuket
  สภาพอากาศภาคใต้ฝั่งตัวันตก
  การเปลี่ยนองศา
แผ่นดินไหวและสึนามิ
  กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว
  เรื่องแผ่นดินไหวและสึนามิ
  คลื่นยักษ์สึนามิถล่มภูเก็ต - You Tube
  แผ่นดินไหวทั่วโลก (USGS)
รวมเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภูเก็ต
  PHUKET HERITAGE
  ทำเนียบสายตระกูล ณ ระนอง
สถาบันอุดมศึกษาในภูเก็ต
  มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
  วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต
  วิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ต
โรงเรียนในภูเก็ต
  โรงเรียนดาวรุ่งวิทยา
  โรงเรียนภูเก็ตไทยหัว
  โรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร
  โรงเรียนอนุบาลภูเก็ต
  โรงเรียนราไวย์เรืองวิทย์
  โรงเรียนเทศบาลเมืองภูเก็ต
  โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง
  โรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม
บริการวิชาการ
  สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต
  สนง.วัฒนธรรมภูเก็ต
  สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.ภูเก็ต
ค้นข้อมูลจากหอสมุด
  Library of Congress
  The British Library
  มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  มหาวิทยาลัยมหิดล
ค้นเอกสาร
  พระราชบัญญัติ
  ราชกิจจานุเบกษา
สถาบันศาสนา
  @ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี
เว็บเครือข่าย
  สมบูรณ์แก่นโน้ต
  สมบูรณ์อินโฟ
  ตระกูลแซ่หลิน
  สมบูรณ์แก่นโน้ต
.

เทศกาลไหว้พระจันทร์

 


 

     

 

 

 

 

 

 

  เทศกาลวันไหว้พระจันทร์  ตรงกับวันที่  ๑๕ ค่ำ เดือน ๘  หรือ กลางฤดูใบไม้ร่วง  เป็นช่วงที่ชาวนาชาวสวนต่างเก็บเกี่ยวพืชผลที่กำลังสุก  ซึ่งถือว่าเป็นฤดูเก็บเกี่ยว อากาศสดชื่นสบาย  ทำให้ญาติสนิทมิตรสหายต่างมาพบปะกันได้สะดวก  งานฤดูใบไม้ร่วงได้เริ่มมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวเป็นต้นมา  ซึ่งฮ่องเต้จะทรงประกอบพิธีบูชาพระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วง  และทรงบูชาพระอาทิตย์ในกลางฤดูใบไม้ผลิเป็นประจำทุกปี  ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถัง  พ.ศ. ๑๑๖๑ – ๑๔๕๐  จึงได้มีการกำหนดวันแน่นอน คือ วันที่ ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

ประวัติความเป็นมา

 

        เทศกาลวันไหว้พระจันทร์มีตำนานความเป็นมาหลายตำนาน  ดังนี้

 

 

ตำนานเรื่องที่    ฉางเอ๋อ

 

 

              งานเทศกาลไหว้พระจันทร์ประจำปีตรงกับวันที่ ๑๕ ค่ำ เดือน ๘  เป็นวันแซยิดหรือคล้ายวันถือกำเนิดของเทพเจ้าหลายองค์  ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น  คือ  เทพเจ้าฉางเอ๋อ  หรือเทพธิดาแห่งดวงจันทร์

        ฉางเอ๋อ  ;  หรือ Chang Er  หรือ เหิงอี้ หรือ เหิงเอ๋อ หรือ เหิงโอ๋ หรือ ฉางหงอ  เป็นภรรยาของโหวอี้  ทั้งคู่มีชีวิตอยู่ในช่วงสมัยพระเจ้าเหยาตี้ แห่ง ซานหวงอู่ตี้  โหวอี้เป็นทหารองครักษ์ของพระเจ้าเหยาตี้  โหวอี้มีอาวุธวิเศษอยู่คือ  ดอกศรสีขาวและคันธนูสีแดง

        ตี้จุนเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลตะวันออก ทรงมีพระมเหสีชื่อ พระนางซีเหอ  ทั้งสองพระองค์มีพระโอรส  ๑๐ องค์ที่มีลักษณะพิเศษ  คือพระวรกายมีแสงร้อนแรงแผ่ออกมาเป็นแสงพระอาทิตย์  ในแต่ละสัปดาห์พระมารดาซีเหอ  จะนำพระโอรสทั้งสิบไปสรงน้ำในทะเลสาบที่หุบเขาแสงแห่งตะวันออก  เมื่อสรงน้ำเสร็จแต่ละองค์จะประทับบนต้นมอลเบอรรี่วิเศษ  ที่เรียกว่า  ฝู่สาง  ในแต่ละครั้งพระมารดาจะทรงอนุญาตให้โอรสองค์หนึ่งเสด็จด้วยราชรถเทียมด้วยมังกร ๖ ตัว  เพื่อเสด็จเหาะเหินจากฟากฟ้าทิศตะวันออก ข้ามขอบฟ้าลัดไปสู่ทิศตะวันตกที่เทือกเขาเหยินจู่  ในช่วงที่พระโอรสชักราชรถผ่านท้องฟ้า  แสงจากพระวรกายของพระองค์ก็จะบันเจิดจ้าสว่างไปทั่วและทำให้เกิดความอบอุ่นขึ้นบนโลก

        อย่างไรก็ตามพระราชภารกิจประจำวันแบบนี้ทำให้พระโอรสแต่ละพระองค์ทรงเบื่อหน่ายที่ต้องทำซ้ำซากตามวิสัยเด็ก  คืออยากเล่นสนุกกันทั้งสิบพระองค์บนท้องฟ้ามากกว่า  แล้ววันหนึ่งพระราชโอรสทั้งสิบพระองค์ก็ทรงนัดกันที่จะชักพระราชรถเทียมมังกรออกจากทิศตะวันออกพร้อมกันเพื่อมุ่งไปทิศตะวันตก  ถ้าหากกระทำดังกล่าวก็จะทำให้แม่น้ำและมหาสมุทรเหือดแห้ง ผู้คนสัตว์ทั้งหลายตายหมด โลกอาจแตกระเบิดเป็นเสี่ยงๆเป็นแน่

        เมื่อพระเจ้าเหยาตี้ทรงทราบดังนั้นจึงทรงปรึกษากับเทพเจ้าตี้จุนพระบิดาขององค์ชายทั้งสิบรวมทั้งทวยเทพทั้งหลาย เพื่อขจัดปัดเป่าสถานการณ์  ครั้งแรกเทพเจ้าตี้จุนทรงเรียกพระโอรสทั้งสิบมาห้ามปรามมิให้กระทำ  แต่พระโอรสไม่ทรงเชื่อฟังกลับกริ้วพระบิดาอีก  เทพเจ้าตี้จุนจึงมอบภาระนี้ให้เทพโหวอี้จัดการความดื้อรั้นของโอรสทั้งสิบของพระองค์  เทพโหวอี้รับพระบัญชาแล้วลงมาจากสวรรค์ไปคอยอยู่ที่เทือกเขาคุนลุ้น  แล้วเทพโหวอี้จึงดึงดอกศรวิเศษสีขาวออกจากซองในกล่องสะพายหลังบรรจงใส่นาบบนคันธนูวิเศษสีแดงเพื่อจะข่มขู่พระโอรสมิให้กระทำ  แต่การมิได้เป็นไปเช่นนั้น เมื่อพระโอรสทั้งสิบชักรถผ่านมา เทพโหวอี้กลับเล็งไปยังพระโอรสและยิงธนูออกไปถูกพระโอรสเก้าพระองค์สิ้นพระชนม์  จนเหลือองค์ที่สิบ พระเจ้าเหยาตี้จึงทรงขอให้ไว้ชีวิตเพื่อทำให้เกิดแสงสว่างและความอบอุ่นแก่โลกมนุษย์  เทพโหวอี้จึงปฏิบัติตามรับสั่งของพระเจ้าเหยาตี้  จึงเหลือพระอาทิตย์เพียงองค์เดียวเท่านั้นที่ยังส่องแสงสว่างมายังโลก

        เมื่อเทพตี้จุนทรงทราบว่าโอรสเก้าองค์ถูกของวิเศษเทพโหวอี้สิ้นพระชนม์  ทรงกริ้วมากและเสียพระทัย  จึงทรงขับไล่เทพโหวอี้ให้ออกไปจากสวรรค์ลงมาเป็นคนธรรมดาบนโลกมนุษย์  ทำให้เทพโหวอี้ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ไม่มีวันตายกลายเป็นคนธรรมดาไปเช่นนี้ เขาจึงได้รับคำยกย่องสรรเสริญจากมนุษย์มากที่ยอมเสียสละ  ถึงเขาจะเป็นคนธรรมดาแต่ในที่สุดก็ชนะใจหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ ฉางเอ๋อ  และได้แต่งงานกัน

        วันหนึ่งโหวอี้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่งที่บริเวณเทือกเขาคุนลุ้น ณ ที่นั้นเขาได้พบ เทพเจ้าซีหวางมู่  พระราชินีแห่งภูมิภาคตะวันตก    ด้วยความที่โหวอี้มีความเคารพในพระองค์เป็นอย่างสูง  เขาจึงได้สร้างพระตำหนักด้วยหยกและท่อนไม้  ทำให้พระองค์ทรงพอพระทัยมาก  จึงได้พระราชทาน ยาวิเศษ  ให้โหวอี้หนึ่งเม็ด เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะกลับเป็นเทพเจ้าหรือเซียนตามเดิม  แต่ตัวโหวอี้อยากได้อีกเม็ดหนึ่งเพื่อให้ภรรยาที่เขารักได้กินเพื่อขึ้นไปสวรรค์อยู่พร้อมกัน  พระนางซีหวางมู่จึงรับสั่งให้เขาปฏิบัติตนถือศีลกินเจทำให้ใจบริสุทธิ์เป็นเวลาสิบสองเดือน  โหวอี้ก็รับคำแล้วกลับมาบ้านเล่าให้ภรรยาฟังทุกประการ  ทั้งสองคนจึงเริ่มปฏิบัติตามคำแนะนำของพระนางซีหวางมู่  เขาจึงเอายาวิเศษเม็ดที่ได้มาครั้งแรกใส่ห่อด้วยผ้าไหมซ่อนบนเพดานในบ้านของเขา  แต่ทว่าเรื่องนี้บังเอิญคนรับใช้ผู้ชายชื่อ เฝิงเหมิง รู้เห็น  เขามีจิตคิดคดอยากได้ยาวิเศษเม็ดนั้น

        วันหนึ่งโหวอี้ออกไปป่าหาอาหารพร้อมด้วยเฝิงเหมิง  เมื่อได้โอกาสเฝิงเหมิงจึงลอบฆ่าเจ้านายของตนแล้วรีบกลับมาบ้านเจ้านายข่มขู่คาดคั้นเอายาวิเศษเม็ดนั้นจากฉางเอ๋อ  ซึ่งเธอก็ไม่สามารถจะป้องกันตัวเองได้  ฉวยจังหวะเหมาะจึงรีบกลืนยาเม็ดนั้นเข้าไปทันที  ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็เปลี่ยนฉับพลันเป็นพลังของผู้วิเศษ ตัวเบาลอยขึ้น เธอจึงรีบกระโจนออกจากทางหน้าต่าง แล้วเหาะขึ้นท้องฟ้า  ถึงแม้เฝิงเหมิงจะไล่จับก็ไม่ทัน  เธอล่องลอยไปทั่วแล้วเหาะไปสถิตอยู่บนดวงจันทร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  เพราะเธอเห็นว่าสถานที่นี้เหมาะที่เธอจะพำนักเพื่อระลึกถึงโหวอี้คนรักของเธอ  ด้วยการร้องรำพันต่างๆนานาที่ต้องจากกันด้วยวัยอันไม่สมควร

        อย่างไรก็ตาม ตำนานฉางเอ๋อมีเล่าแตกต่างกัน  บ้างว่า ฉางเอ๋อได้ขโมยยาวิเศษของโหวอี้สามีมารับประทานเมื่อสอบสวนเป็นจริง เธอจึงถูกเนรเทศให้ขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์  แล้วถูกสาปให้เป็นคางคกสามขา  อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า  โหวอี้ได้เป็นกษัตริย์ แต่ต่อมาทรงดุร้าย ทำให้พระนางฉางเอ๋อทรงกลัว จึงเอายาวิเศษเม็ดนั้นมาเสวยแล้วเสด็จไปประทับบนดวงจันทร์  บางตำนานว่า  ฉางเอ๋อเป็นเทพธิดาองค์หนึ่งปฏิบัติภารกิจอยู่ในพระราชวังของฮ่องเต้หยกอ๋องส่องเต่ ( ทีกง ) บนสวรรค์ วันหนึ่งเธอทำแจกันแตก  จึงถูกลงโทษกักขังอยู่บนดวงจันทร์

        ถึงอย่างไรก็ตามชาวบ้านทั้งหลายก็พากันสักการะเซ่นไหว้ขอพรจากเธอ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวขอให้สมหวังในเรื่องคู่รัก  ดังนั้นในวันที่ ๑๕ ค่ำเดือน ๘ ต่างพากันเซ่นไหว้เป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบัน

 

 

  ตำนานเรื่องที่    อู่กาง

 

        อู่กางเป็นคนที่ใจไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย ใจโลเล จับจดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เป็นคนเปลี่ยนใจง่าย  วันหนึ่งเขาคิดอยากเป็นเซียนขึ้นมา จึงเดินทางไปยังเทือกเขาเพื่อสืบเสาะหาอาจารย์ที่จะสอนให้เขาเป็นเซียน  แล้วในที่สุดเขาก็ได้พบกับอาจารย์ตามที่ตนเองอยาก  อาจารย์จึงให้เรียนเรื่องแรก  คือให้ศึกษาเรื่องสมุนไพรชนิดต่างๆว่าจะรักษาโรคอะไรได้บ้าง  แต่เขาเรียนได้เพียงสองสามวันก็เบื่อ  อยากให้อาจารย์สอนวิชาอื่น  อาจารย์จึงสอนวิชาที่สองเป็นเรื่องหมากรุก  แค่เรียนได้ไม่เท่าไรเขาก็ขอให้อาจารย์เปลี่ยนเรื่องอื่น

        ข้างอาจารย์จึงยกเอาตำราเรียนวิธีที่จะเป็นเซียนทั้งเล่มมาให้  แต่ก็อีกนั่นแหละ เขาเรียนไปได้หน่อยหนึ่ง เริ่มโลเล  อยากเรียนเรื่องอื่น

        อู่กางจึงถามอาจารย์ว่า  มีสถานที่ใดบ้างที่ท่องเที่ยวไปแล้วน่าตื่นเต้นเร้าใจ  อาจารย์ก็เลยบอกว่า “งั้นเจ้าจงไปอยู่ในพระตำหนักบนดวงจันทร์ซี  แต่เจ้าจะต้องโค่นต้นกระถินยักษ์ให้ล้มก่อน  แล้วจึงจะกลับมายังโลกมนุษย์”

        อู่กางจึงต้องอาศัยอยู่ในพระตำหนักบนดวงจันทร์และต้องโค่นต้นกระถินยักษ์วิเศษ  จนบัดนี้ก็ยังไม่ล้ม

 

 

ตำนานเรื่องที่    กระต่ายหยก

 

        นานมาแล้ว ยังมีเทพธิดาสามองค์แปลงกายเป็นชายแก่ขอทาน  ขณะที่เดินไปนั้นพบกบ ลิง และกระต่าย  ข้างกบและลิงต่างก็มีอาหารให้ขอทานแปลงทั้งสามคน  แต่กระต่ายบอกว่าไม่มีของให้ขอทานด้วยการแบมือเท้าให้ดู  แต่ถ้าอยากได้ก็จงเอาเนื้อของตนไปกินเถิด  ว่าแล้วกระต่ายก็กระโจนเข้ากองไฟย่างเนื้อของตนให้ขอทาน

        ข้างชายแก่แปลงทั้งสามคนเห็นน้ำใจในการให้ทานด้วยเนื้อของตนเช่นนี้ก็เพื่อพวกตน  เทพธิดาทั้งสามจึงให้กระต่ายชึ้นไปประจำที่พระตำหนักบนดวงจันทร์ตั้งแต่นั้นมา

 

 

ตำนานเรื่องที่     ขนมเปี๊ยะ

 

        ในสมัยราชวงศ์หยวน  ( พ.ศ.  ๑๘๒๓ – ๑๙๑๑ )  จีนปกครองโดยฮ่องเต้มองโกลต่างชาติ  หัวหน้าคณะผู้ก่อการเพื่อทวงแผ่นดินคืนซึ่งสืบเชื้อสายมาแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง  ต่างไม่พอใจ  จึงคิดหาวิธีโค่นล้มอำนาจราชวงศ์หยวนด้วยวิธีแยบยลไม่มีร่องรอยให้ถูกจับได้  เมื่อต่างคนรู้ว่าเทศกาลไหว้พระจันทร์กำลังจะถึง  ซึ่งในช่วงนั้นจะมีขนมเปี๊ยะเป็นรายการหลัก  พวกเขาจึงส่งสัญญาณถึงกันทั้งเมืองด้วยการเขียนข้อความการนัดแนะที่จะโค่นล้มบัลลังก์ในคืนวันที่ ๑๕ ค่ำ เดือน ๘  วันไหว้พระจันทร์  แล้วพับเป็นแผ่นเล็กๆยัดใส่เข้าไว้ในไส้ขนมเปี๊ยะ  แจกจ่ายไปยังคณะผู้ก่อการทั้งหมด  เมื่อถึงวันกำหนดนัดดังกล่าว ประชาชนต่างลุกฮือขึ้นขับไล่พวกมองโกลออกไปจากพื้นแผ่นดินจีน  แล้วสถาปนาราชวงศ์หมิงขึ้นปกครองแผ่นดินต่อไป

 

 

พิธีกรรม

 

๑.  กำหนดวันเวลาไหว้พระจันทร์  คือ

 

        ภาคเช้า  ไหว้ทีกงและไหว้พระจันทร์  ไหว้เทพเจ้าประจำบ้าน  ไหว้จ้าวฮุนกงเทพเจ้าแห่งเตาไฟ

        ภาคค่ำ  ไหว้พระจันทร์   ไหว้พระกวนอิม

 

        หมายเหตุ  การกำหนดไหว้เทพองค์ใดที่ไหนมีความเหมือนและความต่างของแต่ละครอบครัวและท้องถิ่น

อย่างที่บ้านมารดาผู้เขียน  จะไหว้ภาคเช้า  ส่วนภาคค่ำจะไหว้อีกครั้งแล้ว สิ้ว ของพวกขนม คือ  เอาขนมออกคงไว้แต่ผลไม้

 

๒.   ของเซ่นไหว้  ได้แก่

 

     ๒.๑  ต่งฉิ่วเปี้ย หรือขนมเปี๊ยะแบบต่างๆ  ขนมโก๋  ฯลฯ  จำนวนชิ้นตามศรัทธา

     ๒.๒   ผลไม้ต่างๆ  จำนวนจะเป็น  ๓/ ๕/ ชนิดแล้วแต่ผู้ไหว้

     ๒.๓   น้ำชา

     ๒.๔   กระดาษทอง

     ๒.๕   ธูปเทียน  ดอกไม้ปักแจกัน

 

๓. การกล่าวคำไหว้และวิธีการเช่นเดียวกับการไหว้วันสารทจีน

๔.   ขนมเปี๊ยะไหว้เสร็จแล้ว  นำไปแจกญาติมิตรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัว

 

        การไหว้พระจันทร์จึงเป็นวันสำคัญเพื่อบูชาบรรพบุรุษอีกวันหนึ่งของคนไทยเชื้อสายจีน

 

 

        :       สมบูรณ์ แก่นตะเคียน     กันยายน  ๒๕๕๐

 

Title  :      Chinese Moon Festival

 

        :      Somboon Kantakian

 

 

 




 

 ed. & enl.  22/09/2018        

       

 

 

 

ภาพประกอบ

จากกูเกิล

 

***

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

*****

 

 

 

 

 

บทความอื่นๆ ในหมวดเดียวกัน
หน่วยงานของรัฐ
  สกสค. ภูเก็ต
  ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
  อบจ. ภูเก็ต
  สนง.เขตการศึกษาภูเก็ต
  เทศบาลนครภูเก็ต
  เทศบาลเมืองกะทู้
  เทศบาลเมืองป่าตอง
  เทศบาลตำบลวิชิต
  เทศบาลตำบลรัษฎา
  เทศบาลตำบลเทพกระษัตรี
  เทศบาลตำบลฉลอง
  เทศบาลตำบลศรีสุนทร
  อบต.สาคู
  อบต.เกาะแก้ว
  ขนส่งจังหวัดภูเก็ต
โรงพยาบาล
  โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
  โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต
  โรงพยาบาลถลาง
  โรงพยาบาลสิริโรจน์
  โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต
  โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต
เที่ยวภูเก็ต
  ภูเก็ตท่องเที่ยว
  แอร์เอเชีย
  บางกอกแอร์
  การบินไทย
  นกแอร์
  โอเรียนท์ไทย
แลกเปลี่ยนเงินตราและหุ้น
  ตลาดหลักทรัพย์-หุ้น
  ตลาดหุ้น
หนังสือพิมพ์
  มติชน
  ข่าวสด
  ไทยรัฐ
  เดลินิวส์
  voice tv
  สำนักข่าวอิศรา
  ผู้จัดการ
  แนวหน้า
  ไทยโพสต์
  บ้านเมือง
  โพสต์ทูเดย์
  สยามสปอร์ต
  เจาะลึกระบบสุขภาพ
  THE STANDARD
  the MATTER
  มุสลิมไทยโพสต์
  สยามธุรกิจ
  มติชนสุดสัปดาห์
  ไทยทริบูน Thai Tribune
  Bangkok Post
  ข่าวช่อง3
  เรียงเบอร์
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
  ข่าวภูเก็ต
  theThaiger
  Phuket Wan
  ข่าวภูเก็ตออนไลน์
  เสียงใต้รายวัน
หางานทำที่ภูเก็ต
  ศูนย์รวมงานจังหวัดภูเก็ต
  สมัครงานที่ภูเก็ต
  หางานทำที่จังหวัดภูเก็ต
หนังสือพิมพ์เพื่อนบ้าน
  ซินหัวไทย
  BBC news / ไทย
  NIKKEI ASIA
  Vientianemai
  Pasaxon
  The Phnom Penh Post
  The Myanmar Times
  Myammar - now
  The Irrawaddy
  Thanh Nien News
  Hanoitimes
  malaysiakini
  The StraitsTimes
  New Straits Times
  Tha Jakatar Post
  The Jakarta Globe
  Inside Indonesia
  The Manila Times
  Phillippine Daily Inquirer
  Phillippine Times
มูลนิธิ สมาคม
  มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
  มูลนิธิเมืองเก่าภูเก็ต
เรื่องน่าสนใจ
  สถิติโลก
  เวลาทั่วโลก
  รหัสไปรษณีย์ไทย
  การหาระยะทางจากเมืองสู่เมือง