พ่อท่านฝา
พ่อท่านฝา หรือ หลวงพ่อเจ้าฝา หรือ หลวงพ่อท่านเจ้าฟ้า ที่ชาวบ้านเรียกขานกัน ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ชาวบ้านเล่าขานเป็นตำนานว่า ท่านเป็นพระที่มีคาถาอาคมแก่กล้าจนทหารพม่าฟันไม่เข้า ในการสงครามระหว่างเมืองถลางกับพม่า เป็นที่เกรงขามของศัตรูและเป็นที่เคารพนับถือของชาวถลาง ปัจจุบันมีการสร้างพระพุทธรูปแทน ประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านดอนหรือวัดเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
จากตำนานกล่าวว่า พ่อท่านฝามิใช่เป็นชาวเมืองถลาง ท่านเป็นพระสงฆ์ชาวปักษ์ใต้ที่ธุดงค์มาจำวัดอยู่ที่วัดบ้านดอน ด้วยเหตุที่ท่านมีจริยวัตรที่มีความเมตตาและถึงพร้อมด้วยคาถาอาคม เหล่าบรรดาชายหนุ่มต่างสมัครเป็นศิษย์และขอเรียนคาถาอาคมจากท่าน เพื่อเอาไว้ป้องกันตัว ท่านเต็มใจสอนให้ไม่ปิดบัง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการฟันไม่เข้า ซึ่งจำเป็นต้องฝึกสมาธิ และมีสัจจะ มีเมตตาธรรมและข้อห้ามบางประการที่จะต้องละเว้น ให้เอาไปใช้ป้องกันตนเท่านั้น ไม่ได้ให้เอาไปรังแกคนอื่น ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาและปฏิบัติตามกฎเท่านั้น คาถาจึงจะอยู่กับตัวตลอดไป เหล่าบรรดาชายหนุ่มต่างนิยมเลื่อมใสในตัวพ่อท่านฝา เมื่อทราบข่าวว่าพม่ากำลังเตรียมทัพมาตีเมืองถลาง พ่อท่านฝาจึงมีลูกศิษย์ลูกหาเพิ่มขึ้น
ฝ่ายพระยาถลาง เมื่อทราบข่าวจากพ่อค้าสำเภาที่เดินทางจากเมืองมะริดบอกว่า พม่ากำลังต่อเรือสะสมเสบียงอาหาร เตรียมทัพที่จะยกมาตีเมืองถลางแน่นอน เมื่อพระยาถลางทราบดังนั้นจึงตรวจข่าวแน่นอนว่าพม่าตระเตรียมกองทัพเรือจริง จึงมีใบบอกไปเมืองหลวงและหัวเมืองใกล้เคียง พร้อมกับทำการซ่อมแซมค่ายคูประตูหอรบให้แข็งแรง เรียกเหล่าบรรดาชายฉกรรจ์ทหารเกณฑ์เข้าฝึกอาวุธประจำกาย ตลอดจนฝึกซ้อมการยิงปืนใหญ่ปืนน้อย การเตรียมยุ้งฉาง เสบียงอาหารแห้งไว้ในค่ายที่บ้านดอน พร้อมกับสั่งซื้ออาวุธปืนใหญ่น้อยกระสุนดินดำจากเมืองปุเล้าปีนัง ด้วยความไม่ประมาท
เมื่อพระยาถลางทราบจากเมืองตะกั่วป่าว่า พม่ากำลังยกกองเรือมาตีเมืองถลางแน่นอนแล้ว พระยาถลางจึงรีบประกาศให้ชาวบ้านทุกคนอพยพเข้าค่ายที่บ้านดอน ซึ่งเป็นค่ายใหญ่ ฝ่ายพ่อท่านฝาท่านไม่ยอมเข้าไปในค่าย จึงขอพำนักอยู่ในกุฏิเรือนไม้ใต้ถุนสูงที่วัดนอกบ้านดอน ชาวบ้านและลูกศิษย์จะอ้อนวอนอย่างไร ท่านบอกเพียงว่าท่านไม่เป็นอะไร
เมื่อกองทัพพม่ายกมาถึงทั้งปีกซายปีกขวา ตั้งทัพที่บริเวณโคกนา ส่วนแม่ทัพใหญ่ยกไปตีเมืองภูเก็ตท่าเรือและพำนักที่นั่น ตัวนายทัพพม่าทั้งปีกซ้ายปีกขวาจึงสั่งให้เข้าล้อมค่ายเมืองถลางไว้
ในขณะเดียวกันนายทหารพม่าก็แต่งหมู่ทหารให้ไปลาดตระเวน ปล้นชาวบ้าน หาเสบียงอาหาร เมื่อหมู่ทหารพม่าเข้าไปในวัด เปิดกุฏิเข้าไปเห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งหันหลังให้ในท่านั่งสมาธิโดยไม่เคลื่อนไหว นายหมู่เห็นดังนั้นคิดว่าพระรูปนี้อยากลองดี จึงเอาดาบฟันสะพายเฉียงไปทีหนึ่ง ปรากฏว่าฟันไม่เข้า นายหมู่ตกใจก้มลงกราบรีบลงจากกุฏิ เข้าไปรายงานนายทัพปีกขวา
ฝ่ายนายทัพปีกขวาไม่เชื่อ จึงเดินทางไปที่วัด ขึ้นไปบนกุฏิ พ่อท่านฝาท่านกำลังนั่งสมาธิหันหลังให้เช่นเดียวกัน โดยไม่ไหวติง นายทัพปีกขวาเห็นดังนั้น จึงเงื้อดาบฟันบ่าเฉลียง ปรากฏว่าไม่เข้า ได้ยินแต่เสียง เขาฟันซ้ำอีกทีทั้งบ่าซ้ายขวาปรากฏว่าไม่เข้า พ่อท่านฝาก็ยังนั่งอยู่ในท่าเดิม นายทัพตกใจ รีบก้มลงกราบ แล้วรีบกลับไปค่ายของตน
ฝ่ายทางค่ายเมืองถลาง ได้ยิงปืนใหญ่ออกไปยังค่ายพม่า ทำให้กองทัพพม่าไม่สามารถที่จะเข้าปีนค่ายหรือเข้าใกล้รั้วค่ายได้ เมื่อแม่ทัพใหญ่ทราบว่านายทัพปีกขวาไม่สามารถที่จะเข้าตีค่ายเมืองถลางได้ จึงสั่งให้นายทหารไปจับมาจะฆ่าเสีย แต่ด้วยความบังเอิญที่ตัวแม่ทัพใหญ่ถึงแก่กรรมกะทันหันที่ภูเก็ตท่าเรือ ตัวนายทัพปีกซ้ายขวาเห็นว่าไม่มีแม่ทัพควบคุมทัพ จึงพากันสั่งถอนทัพลงเรือยกขึ้นไปพักทัพที่ปากจั่น แขวงชุมพร
เมื่อทัพพม่ายกกลับไปแล้ว ชาวเมืองถลางจึงออกจากค่าย ไปเยี่ยมพ่อท่านฝา เป็นที่โจษขานกันมากเรื่องที่พม่าฟันพ่อท่านฝาแต่ไม่ระคายเคืองผิวท่าน และมิได้ทำอันตรายพ่อท่าน
********
หมายเหตุ
๑ ) เรื่องฟันไม่เข้าแทงไม่ออกหรือยิงไม่ออกนี้ในพงศาวดารไทยมีกล่าวถึงอยู่ ๒ เรื่องคือเรืองสมัยสมเด็จพระนารายณ์โปรดให้ราชทูตพระวิสูตรสุนทร(โกษาปาน)เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส เมื่อพ.ศ. ๒๒๒๘ อีกเรื่องหนึ่ง สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทั้งสองเรื่องอยู่ในฉบับตำราเรียนของกรมศึกษาธิการ ปี ร.ศ. ๑๒๖(พ.ศ. ๒๔๕๑)
สมัยแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า
ครั้นถึงเดือน ๑๑ ในปีกุนนพศกนั้น จึ่งเสด็จยาตราทัพเรือ ๑๐๐ลำเศษ พลทหารประมาณ ๕๐๐๐ ยกจากเมืองจันทบุรีมาทางทเล ได้ทราบข่าวว่า พระยาอนุราฐเจ้าเมืองชลบุรีกับหลวงพลขุนอินเชียงมิได้ละพยศอันร้าย กลับกระทำโจรกรรม ออกตีชิงสำเภาแลเรือลูกค้าวานิชเหมือนแต่ก่อน มิได้ตังอยู่ในธรรมโอวาท ซึ่งมีพระประสาทสั่งสอนนั้น จึ่งให้หยุดทัพเรือเข้าประทับ ณ เมืองชลบุรี แล้วให้หาพระยาอนุราฐลงมาเฝ้า ณ เรือพระที่นั่ง ตรัสถามก็รับเป็นสัตย์ จึ่งสั่งให้ขุนนางนายทหารไทยจีน จับพระยาอนุราฐประหารชีวิตเสีย แลพระยาอนุราฐคงกระพันในตัว แทงฟันหาเข้าไม่ เพราะด้วยสะดือ
เปนทองแดง จึ่งให้พันธนาการ แล้วเอาถ่วงน้ำเสียในทเลก็ถึงแก่กรรม...
๒ ) ตำนานฉบับนี้ ผม ผู้เขียน ปรับให้สอดคล้องตามความเป็นจริง จึงต่างจากฉบับแผ่นปลิวของทางวัดบ้านดอนชื่อ ประวัติ วัดเทพกษัตรีย์ อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
๓ ) ส่วนคำว่า "วัดเจ้าฟ้า" "หลวงพ่อท่านเจ้าฟ้า" "สมเด็จเจ้าฟ้า" กำลังศึกษาที่มาอยู่
: สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔
|