พ่อท่านนอกวัด
ประวัติพ่อท่านเจ้าวัดไชยธาราราม ( ฉลอง )
ประวัติของพ่อท่านเจ้าวัดฉลอง ที่ผุดขึ้น เรียกว่า พ่อท่านนอกวัด จำเดิมที่จะรู้เรื่องกันขึ้นนั้น มีเด็กชายคนหนึ่งได้เอากระบือไปผูกไว้ที่ตอหนึ่งซึ่งโผล่ขึ้นจากพื้นดิน เมื่อเด็กคนนั้นได้กลับมาถึงบ้านแล้ว ปรากฏว่าต้องนอนซมอยู่ยกคอก็ไม่ขึ้น พอถึงเวลาเที่ยง บิดาใช้ให้ไปแก้กระบือไปให้กินน้ำ เด็กคนนั้นจึงบอกบิดาว่าคอยกไม่ขึ้นแล้ว ขอให้บิดาไปช่วยเอากระบือให้กินน้ำด้วยเพราะลุกไม่ไหว กระบือนั้นได้ผูกไว้ข้างริมคลอง เมื่อบิดาเด็กไปถึงที่ผูกกระบือก็แลเห็นว่า กระบือตัวนั้นนอนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ลุกขึ้นมากินหญ้าเหมือนอย่างเคย เป็นที่แปลกใจอยู่ แต่เมื่อไปแก้เชือกออกประเดี๋ยวเดียว กระบือตัวนั้นก็ลุกขึ้นได้ ออกไปกินหญ้าได้ตามปกติ ชั่วครู่ต่อมาเด็กคนนั้นก็ลุกขึ้นวิ่งตามบิดาไปที่ผูกกระบือนั้นทันที แต่เมื่อไปถึงก็ปรากฏว่า บิดากำลังจูงกระบืออยู่แล้ว พอตกค่ำลง บิดาได้เข้ามาในวัด เล่าเรื่องที่เด็กผูกกระบือไว้ที่ตอหนึ่งให้ท่านแช่มเจ้าอาวาสฟังโดยละเอียด
รุ่งขึ้นเช้าในวันใหม่ บิดาของเด็กมาพร้อมด้วยเด็ก พระสงฆ์ และชาวบ้านมากหลายได้ไปดูกัน เมื่อได้พิจารณาเห็นตอนั้นเป็นรูปพระพุทธรูปอย่างแน่นอน พ่อท่านแช่มเจ้าอาวาสจึงได้ปลูกโรงขึ้นป้องกันแดดฝน และกั้นรั้วไว้กันจนเสร็จ รุ่งขึ้นในวันที่ ๓ ท่านจึงเรียกพระและฆราวาสมาประชุมกันในวัด แล้วท่านเล่าเรื่องตอไม้ที่ผุดขึ้นมานั้น คือ ท่านเจ้าวัดเดิม กุฏิของท่านเจ้าวัดเดิมอยู่ที่ตรงนี้ ท่านได้นิมนต์ให้เข้ามาอยู่ในวัด แต่ท่านเจ้าวัดบอกว่า ให้ท่านอยู่ที่เดิมต่อไป ท่านจะได้เป็นที่พึ่งของมหาชน และเป็นที่เคารพสักการบูชาของคนทั้งหลาย
ปีที่พ่อท่านเจ้าวัดผุดขึ้นนั้น พ่อท่านแช่มอุปสมบทได้ ๓ พรรษาแล้ว เรื่องนี้ท่านขุนพิมลฯ บิดาของนายอ้น บ้านใต้ ได้ถามถึงเรื่องพ่อท่านนอกวัดผุดขึ้นเมื่อใด ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาเดือนสิบ ข้าพเจ้าอายุได้ ๘ ปี จำความได้ดีแล้ว พ่อท่านแช่มก็ได้เล่าให้ฟัง ดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เมื่อคิดเวลาที่ท่านผุดมาจนถึงปัจจุบันนี้แล้ว ก็เป็นเวลานานถึง๑๑๔ ปีซึ่งตรงกับพ.ศ. ๒๓๙๓ นั่นเอง
ต่อมา พ่อท่านได้ปลูกโรงมุงเหล็กวิลาส เสาสี่เหลี่ยม ไม้แก่น ได้ก่อกำแพงสูงประมาณ ๑ ศอกเศษ ล้อมโบสถ์ท่านไว้
ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๔๓๘ ในเดือน ๑๒ ฝนตกหนัก ๓ วัน ๓ คืน น้ำนองท่วมท้นต้นข้าว แต่ในบริเวณโบสถ์ของท่านเจ้าวัดน้ำไม่เข้าไป พระสงฆ์และฆราวาสไปดูกันทั่ว เห็นเป็นสิ่งอัศจรรย์ ข้าพเจ้าเองก็ได้ไปดูด้วย จึงได้มาเรียนให้ท่านพระครูวิสุทธิวงษ์ฯ ( แช่ม ) เจ้าอาวาสให้ทราบ ท่านจึงได้แจ้งให้ทราบโดยกันว่า ท่านเจ้าวัดท่านได้ปาฏิหาริย์ให้คนเห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์แล้ว
ในเดือนเมษายน ๒๔๓๘ พระบรมโอรสาธิราช ( รัชกาลที่ ๖ ) เสด็จมาในวัดฉลอง ได้ไปทอดพระเนตรพ่อท่านเจ้าวัด แล้วทรงถ่ายรูป แต่ถ่ายอย่างๆก็ไม่ติด เป็นที่อัศจรรย์อีกครั้งหนึ่ง เสด็จท่านได้กล่าวพระโอษฐ์ที่ใต้ต้นมะปริงหลังโบสถ์ว่า ชาวฉลองล้วนแต่ได้รับความสุขสบายด้วยท่านเจ้าวัด และท่านพระครูผู้ที่มีวาจาสิทธิ์ ฉันได้เห็นกับตาแล้ว ขอให้ชาวฉลองจงมีความสุขสบายทั่วหน้ากัน ต่อไปเจ้าเมือง ได้กล่าวนำ ขอให้ทรงพระเจริญชั่วกาลนานเทอญ ราษฎรและมหาชนก็ปฏิบัติตามคำนำของท่านเจ้าเมืองโดยพร้อมเพรียงกัน
เรื่องการปาฏิหาริย์ยังมีอีกหลายเรื่อง ข้าพเจ้าเล่ามานี้ เห็นว่า ท่านพอจะเชื่อได้บ้าง เพราะมีหลักอยู่แล้ว ถ้าหากว่าตรงไหน ยังขาดตกบกพร่องขออภัยด้วย ถ้ามูลเหตุยิ่งกว่านี้แล้ว โปรดมาคุยกับข้าพเจ้าผู้เล่าด้วยเถิด
จัด สาลีบุศย์
บ้านฉลอง ๒๖ มกราคม ๒๕๐๗
คัดจาก
จัด สาลีบุศย์ ( ๒๕๐๗ ) เกล็ดประวัติหลวงพ่อเจ้าวัดไชยธาราราม ( ฉลอง ) และ พระครูวิสุทธิวงษาจารย์ฯ ( หลวงพ่อแช่ม ) ภูเก็ต : โรงพิมพ์ทวีสิน
หนังสือนี้ พิมพ์ครั้งแรก ๑๒๐๐ เล่ม นายรัตน รักตะจิตระการ และนายศิระ รักตะจิตระการ พิมพ์ถวายโดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อสมทบทุนสร้างพระวิหารประดิษฐานหลวงพ่อเจ้าวัด ( นอก ) ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญในครั้งนี้แด่บรรพบุรุษและบรรดาญาติพี้น้องที่ล่วงลับไปแล้วโดยทั่วกัน
หมายเหตุ
หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยกระดาษปรู๊ฟ ขนาด ๑๖ หน้ายก เมื่อนานวันเข้าย่อมเปื่อยยุ่ย และพิมพ์จำนวนน้อย ปัจจุบันคงเหลือน้อยมาก เพื่อรักษาเนื้อหาที่ทรงคุณค่าไว้ จึงกราบขออนุญาตท่านเจ้าของบทความ นำมาพิมพ์ตามต้นฉบับ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป
สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔
|